วันเสาร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2550

คุณลำไยโกอินเตอร์

ยังจำไม่เคยลืมเลือน คอยเตือนตัวเองเอาไว้ ที่เธอเรียกฉันลำไย…
เพลงคุณลำไย เป็นอีกเพลงหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงทางความคิด โดยยึดติดกับค่านิยมตะวันตก ซึ่งหลายๆ คนคงคุ้นเคยกับเพลงนี้มากพอสมควร คงจะไม่ต้องให้ผู้เขียนร้องเพลงให้ฟังหรอกนะคะ
เพลงนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของสังคมหลายอย่าง เช่นการตั้งชื่อ หรือการเลือกซื้อของต่างๆ จะต้องเป็นของมียี่ห้อ ถึงจะเข้ากับยุดสมัยในขณะนี้ อย่างตอนที่เนื้อเพลงว่า
“น้องกิฟท์เชอร์รี่น้องวาย มีตั้งมากหลาย ไม่ยอมเรียกกัน
หรือเรียกว่าน้องแอนน้องอัน น้องโบว์น้องฮันน้องฝันก็ยังดี น้องเมล์ชื่อเท่ห์จะตาย
ก็แล้วทำไมไม่เรียกกันล่ะนี้ น้องแพร์น้องพิมน้องเฟิร์น”
จากอิทธิพลของชาวตะวันตกในเรื่องของชื่อ ทำให้คนไทยหลายๆ คนหันมาตั้งชื่อลูกให้คล้ายกับชื่อฝรั่งกันทั่งบ้านทั่งเมือง จากเมื่อก่อนชื่อว่า อีเขียว ไอ้แดง บักดำ ไม่ค่อยได้ยินกันแล้วทำให้ชื่อเหล่านี้หายไปกลายเป็นชื่อแบบฝรั่งไปเสียหมด คนไทยใช้คำเหล่านี้จนคิดว่าเป็นภาษาดั้งเดิมของตน น่าเสียใจแทนพ่อขุนรามคำแหงที่คิดค้นภาษาให้กับคนไทย และบรรพบุรุษที่ต่อสู้เพื่อปกป้องชาติไทยแม้จะแลกด้วยชีวิตก็ตาม แต่ลูกหลานกับไปเป็นพวกของฝรั่งเสียได้ ชื่อที่พ่อกับแม่ตั้งให้ ก็ไปเปลี่ยนเป็น เชอร์รี่ น้องแอน น้องวาย ดังที่เห็นกันในเนื้อเพลงของคุณลำไยนั้นเอง
ไม่ว่าจะเป็นการตั้งชื่อ หรือชื่อเรียกของเด็กไทยสมัยนี้ การใช้ของมียี่ห้อก็เป็นอีกค่านิยมหนึ่งที่คนในสังคมปัจจุบันกำลังหลงใหลกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า ร้องเท้า กางเกง หรือเครื่องประดับ ที่มียี่ห้อทั้งหลาย อย่างเช่น หลุย วิกตรอง, พลาด้า, คริสเตียนดิออร์ และอีกมากมายหลายยี่ห้อที่เป็นแบรนด์มาจากต่างประเทศ ลองคิดดูว่าเราต้องสูญเสียเงินทองไปมากเท่าใด เพื่อแลกกับการได้สิ่งเหล่านั้นมา เราจะต้องขายข้าวหอมมะลิสักกี่กระสอบถึงได้กระเป๋ายี่ห้อหลุย วิกตรอง มาถือสักใบหนึ่ง เหมือนทอนหนึ่งของเพลงคุณลำไยว่าไว้ว่า

“เส้นผมยังทำไฮไลต์ กระเป๋าก็ค๊อกโคไดร์
กางเกงก็ยีนส์ลีวายส์ จะเรียกลำใย คิดดูให้ดี”
“เราจะคิดดูให้ดี หรือคิดซื้อให้ดีก็แล้วแต่วิจารญาณของผู้อ่านแล้วนะคะ
โปรดระวังของปลอมด้วยก็แล้วกัน”
และในปัจจุบันนี้ยังนิยมเสริมสิ่งต่างๆ เพื่อให้ตัวเองดูดีขึ้นมาจากเดิม เช่น จมูกไม่โด่งก็ไปเสริมให้โด่ง หน้าอกแบนเหมือนไข่ดาวก็ไปทำให้ใหญ่ขึ้น จะเห็นตัวอย่างจากดาราหลายๆ ท่านที่นิยมไปเสริมกันมากมายในขณะนี้
จะเห็นว่าคนเราทุกวันนี้ชอบอยู่กับการลวงหลอกหรือหลอกลวงกันไร? ใส่หน้ากากเข้าหากันยังไม่พอ ยังดูไม่ออกอีกว่าสวยจากธรรมชาติหรือสวยด้วยมือแพทย์ เหมือนคุณลำไย

“เธอหรือจะมี แฟนที่หุ่นดีอย่างฉัน ทรวดทรงนี้
ลูกครึ่งแบบมะริกัน เปลี่ยนสไตล์ทุกวัน
นำแฟชั่น ที่ทันสมัย .จมูกดูสันเป็นคม”

จากจุดนี้ทำให้ผู้เขียนมองว่าเพลงก็สามารถสะท้อนสังคมในขณะนั้นได้ และไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้ว่ามันไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย

“ลืมอย่างอื่นได้ แต่อย่างลืมความเป็นตัวเอง”

ไม่มีความคิดเห็น: