วันเสาร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2550

“ผู้หญิง”

ใครว่าผู้หญิงอ่อนแอ ใครว่าผู้หญิงเป็นช้างเท้าหลัง คำเหล่านี้คงใช้ไม่ได้กับผู้หญิงสมัยนี้ เพราะอะไร ก็เพราะว่าผู้หญิงได้รับการยอมรับจากสังคม สามารถทำอะไรแทนหรือเทียบเท่าผู้ชายได้ จะเห็นได้จากการที่ผู้หญิงหลายๆ คนในสังคม เช่น คุณสุดารัตน์ คุณหญิงระเบียบรัตน ที่เป็นหลักฐานหรือข้อยืนยังให้สังคมได้รู้ว่าผู้หญิงทำได้มากกว่าที่คุณคิด
คงจะหมดสมัยที่จะให้ผู้หญิงจะอยู่กับหย่า เฝ้ากับเรือนไปเสียแล้ว เพราะผู้หญิงเองก็ออกมาทำงานนอกบ้านเป็นส่วนใหญ่ เพราะผู้หญิงมีความรู้ และฉลาดขึ้น สามารถทำสิ่งใดด้วยตัวเองได้ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งผู้ชาย เช่น ซ่อมรถเองได้ ต่อไฟเองได้ เป็นต้น
เมื่อเทียบกับสมัยก่อนที่ผู้หญิงไม่สามารถมีสิทธิมีเสียงเท่าผู้ชาย เพราะสมัยก่อนผู้หญิงไม่ได้เรียนหนังสือ มีแต่อยู่กับบ้านเฉยๆ ทำให้ไม่มีความรู้ที่จะไปแสดงหรือมีบทบาทในสังคมได้ จะเห็นได้ว่าสมัยก่อนนั้นผู้หญิงถูกจำกัดสิทธิจากผู้ชาย แต่ทุกวันนี้ไม่ได้เป็นเช่นนั้น ผู้หญิงสามารถทำอะไรได้เหมือนผู้ชาย เพราะผู้หญิงได้เข้ามามีบทบาทในสังคม สามารถออกมาปกป้องสิทธิของตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการที่ของใช้นามสกุลตัวเองหลังแต่งงาน การขอฟ้องหย่าเมื่อผู้ชายทำผิดต่อภรรยาของตน
จากที่ผู้เขียนกล่าวมา ทำให้รู้ว่าผู้หญิงนั้นเข็มแข็ง และเด็ดเดียวมาก ถ้าย้อยกลับไปเมื่อ 30 ปีก่อน ผู้หญิงคงทำอะไรไม่ได้มากเท่านี้ มีแต่ก้มหน้ายอมรับในสิ่งที่สังคมอยากให้เป็น โดยการควบคุมของผู้ชาย และอาจจะติดคำโบราณหรือประเพณีที่สั่งสอนมา ที่มักจะสอนให้ผู้หญิงเชื่อผัว ฟังผัว (ผู้เขียนขออภัยที่ใช้คำไม่สุภาพ) ทำไมผู้หญิงสมัยก่อนไม่กล้ามีปากมีเสียง ไม่กล้ามาเรียนร้องสิทธิที่ตนพึ่งมีและพึ่งได้ ทำให้ผู้หญิงหลายๆ คนถูกกดขี่ข่มเหงอยู่ตลอดเวลา
ผู้หญิงก็เป็นได้มากกว่าที่คุณคิด อย่างที่ผู้เขียนได้กล่าวมาข้างต้นนี้ เพราะผู้หญิงสามารถมีทั้งความอ่อนโยนและเข็มแข็งได้คนคนเดียวกันได้ นอกบ้านดูเข็มแข็ง ทำงานเก่ง พอกลับเข้ามาในบ้านก็ดูแลบ้าน ดูแลสามีและลูก คุณไม่จำเป็นต้องมองใครไกล ลองมองแม่ของคุณดูสิ
ทำให้ทุกวันนี้มีนักร้องหลายคนที่เป็นตัวแทนของหญิงแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นปาน,พั้นช์ วรกาญจน์, นัท มีเรีย เป็นต้น ที่เนื้อหาของเพลงส่วนใหญ่จะบอกให้ผู้หญิงนั้นเข็มแข็ง ต่อสู้ และไม่ยอมแพ้ ผู้เขียนขอยกตัวอย่างเพลง “แปลว่ายังหายใจ” ของพั้นช์ ตอนหนึ่งว่า

“ขาดเขาแต่เราก็ต้องอยู่
ถึงแม้ว่าเขาไม่รับไม่รู้ก็ช่างเขา
แค่คนไม่รักจริง ทิ้งกันลงใช่รึป่าว
แล้วจะแคร์แต่เขาไปทำไม
ไม่เห็นต้องโทษตัวเอง ไม่มีใครสมน้ำหน้า
วันนี้แค่เสียน้ำตา เดี๋ยวไม่ช้าก็หาย
อย่างน้อยที่เรายังเจ็บ แปลว่าเรายังหายใจ
ยังมีวันเริ่มต้นใหม่ได้ทุกวัน”

ไม่มีความคิดเห็น: